การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติด้านการให้บริการ และพฤติกรรมสุขภาพของผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ โรงพยาบาลป่าโมก จังหวัดอ่างทอง / ปาริชาติ แช่มช้อย1* Parichat Chamchoy ศรีสุรางค์ ภัทรคามินทร์ 2 Srisurang Phatarakamin
- September 14, 2025
- admin
- 0
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติด้านการให้บริการ และพฤติกรรมสุขภาพของผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ โรงพยาบาลป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
Correlational Study of Knowledge, Service Attitudes, and Health Behaviors Among Individuals Living with HIV/AIDS in Pamok Hospital, Ang Thong Province
Authors
ปาริชาติ แช่มช้อย1* Parichat Chamchoy
ศรีสุรางค์ ภัทรคามินทร์ 2 Srisurang Phatarakamin
(Received: 15 August 2025; Revised: 25 August 2025, 2025; Accepted: 9 September 2025)
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปริมาณแบบพรรณนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติด้านการให้บริการ และพฤติกรรมสุขภาพของผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ณ โรงพยาบาลป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เก็บข้อมูลด้วยแบบทดสอบ 1 ชุด และแบบสอบถาม 3 ชุด กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ จำนวน 88 ราย วิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson’s correlation)
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุ 60 ปีขึ้นไป ระยะเวลาที่เป็นโรค ≥10 ปี ด้านความรู้โดยรวมอยู่ระดับดีมาก 93.18% รายข้อถูกสูงสุดคือความเสี่ยงจากการสัมผัสเลือดผ่านแผลเปิด และต่ำสุดคือการจัดการอาการไม่พึงประสงค์จากยาต้าน ด้านทัศนคติได้คะแนนสูง คือ บุคลากรสุภาพเป็นมิตร (x=4.39, SD=.70) และ ไม่เลือกปฏิบัติ (x=4.31, SD=.66) ขณะที่ เวลารอคอยเหมาะสม ต่ำสุด (x=2.42, SD=1.31) พฤติกรรมสุขภาพโดยรวมอยู่ระดับมาก โดย การรับประทานยาต้านครบและตรงเวลา (x=1.90, SD=.31) สูงสุดและต่ำสุดคือไม่หยุดยาเองและกลับพบแพทย์เมื่อสงสัยอาการไม่พึงประสงค์ (x=.28, SD=.71)
เชิงความสัมพันธ์ พบว่าทัศนคติด้านการให้บริการสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพในระดับค่อนข้างสูง (r=.687, p<.01) ส่วนความรู้สัมพันธ์ในระดับปานกลาง (r=.540, p<.01) สะท้อนว่าคุณภาพประสบการณ์บริการมีบทบาทเชิงพฤติกรรมมากกว่าความรู้เพียงอย่างเดียว
ข้อเสนอแนะ ควรให้บริการที่เป็นมิตรไม่เลือกปฏิบัติ การลดเวลารอคอยด้วย fast-track การจ่ายยาหลายเดือน และ telehealth ตลอดจนการย้ำความรู้เชิงปฏิบัติเรื่องการจัดการอาการไม่พึงประสงค์พร้อมช่องทางติดต่อด่วน ข้อจำกัดคือการออกแบบตัดขวางไม่ยืนยันเหตุผล จึงเสนอให้ศึกษาตามยาว/กึ่งทดลองและหลายบริบทในอนาคต
Keywords : ผู้ติดเชื้อเอชไอวี, ผู้ป่วยเอดส์, ความรู้, ทัศนคติด้านการให้บริการ, พฤติกรรมสุขภาพ