การติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis) จัดเป็นภาวะเร่งด่วนในการให้การรักษาพยาบาล เนื่องจากหากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงทีจะมีอัตราการตายที่สูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรงที่เป็น Severe sepsis/ Sepsis shock เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต โดยอัตราการเสียชีวิต ประมาณร้อยละ 11-40 การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผู้ป่วยเด็กติดเชื้อในกระแสเลือดที่มีภาวะช็อคร่วมกับโรคปอดอักเสบวิธีการศึกษาครั้งนี้เป็นผู้ป่วยเด็กที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรมโรงพยาบาลสิงห์บุรี จำนวน 1 ราย ในช่วง 25 สิงหาคม 2566- 21 กันยายน 2566 รวมระยะเวลา 27 วัน จากแบบบันทึกข้อมูล เวชระเบียนผู้ป่วยใน การสัมภาษณ์ผู้ป่วยและญาติ และการโทรเยี่ยมติดตามอาการที่บ้านหลังจำหน่ายกลับบ้าน 

ผลการศึกษา ผู้ป่วยเด็กชายไทย อายุ 1 ปี มาโรงพยาบาลด้วยอาการ หายใจเหนื่อยหอบ มีเสียงดังในลำคอขณะหายใจ 2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล มีประวัติเป็นโรคดาวน์ซินโดรม รักษาต่อเนื่องโรงพยาบาลสิงห์บุรี แรกรับ ตรวจร่างกายหายใจมี Retraction ฟังปอดมีเสียง Rhonchi  ผลเอกซเรย์พบ Infiltration right upper lobe และตรวจเพาะเชื้อในเลือดพบ เชื้อ klebsiella Pneumoniae ได้รับการรักษาโดยการใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ให้ยากระตุ้นความดันโลหิต ให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับยาพ่นขยายหลอดลม หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ผู้ป่วยอาการดีขึ้นตามลำดับสามารถถอดท่อช่วยหายใจ จำหน่ายกลับบ้านได้หลังนอนโรงพยาบาล 27 วัน 

สรุป การติดเชื้อในกระแสเลือดที่มีภาวะช็อคร่วมกับโรคปอดอักเสบ ส่งผลให้ระบบการหายใจล้มเหลวต้องใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ โดยปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้น ได้แก่โรคประจำตัว อายุ ความร่วมมือในการให้การพยาบาล ดังนั้นพยาบาลผู้ดูแลจึงมีบทบาทสำคัญในการวางแผนและปฏิบัติการพยาบาล ทั้งในภาวะวิกฤติและระยะฟื้นฟู จนผู้ป่วยจำหน่ายกลับบ้านร่วมกับการเตรียมความพร้อมร่วมกับครอบครัวก่อนกลับบ้าน การศึกษาครั้งนี้จึงเป็นการทบทวนการพยาบาลผู้ป่วยเด็กเล็กของหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรมให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น