การพยาบาลผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีแผลเรื้อรังที่เท้าร่วมกับโรคความดันโลหิตสูง / วรรณพร จิตตคาม WANNAPORN JITTAKAM
- May 29, 2025
- admin
- 0
การพยาบาลผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีแผลเรื้อรังที่เท้าร่วมกับโรคความดันโลหิตสูง
Nursing Care for Diabetic Patients with Diabetic Foot infection and Hypertension
Authors
วรรณพร จิตตคาม WANNAPORN JITTAKAM
(Received: 23 April 2025; Revised: 14 May 2025, 2025; Accepted: 22 May 2025)
Abstract
บทนำ แผลเบาหวานที่เท้าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี โดยมีสาเหตุจากการเสื่อมของเส้นประสาทร่วมกับภาวะหลอดเลือดส่วนปลายตีบตัน ซึ่งทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะเนื้อตาย การตัดอวัยวะ และการเสียชีวิตได้ ผู้ป่วยที่มีโรคร่วม เช่น ความดันโลหิตสูง จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนมากขึ้น พยาบาลจึงมีบทบาทสำคัญในการประเมิน ดูแลแผล ควบคุมปัจจัยเสี่ยง และส่งเสริมการดูแลตนเองอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
วิธีการศึกษา ศึกษาย้อนหลังจากเวชระเบียนผู้ป่วยนอกที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีแผลเรื้อรังที่เท้าร่วมกับโรคความดันโลหิตสูง ที่เข้ารับการรักษางานผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลสิงห์บุรีจำนวน 1 ราย โดยใช้กระบวนการพยาบาลเป็นแนวทางสำคัญในการศึกษา
ผลการศึกษา กรณีศึกษาผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 69 ปี มีประวัติโรคประจำตัว ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง มารับการทำแผลที่ห้องทำแผล งานผู้ป่วยนอก พบว่าแผลที่เท้าซ้ายมีเนื้อตาย Discharge มีหนองปน มีกลิ่นเหม็น จึงส่งปรึกษาศัลยแพทย์ ที่ห้องตรวจศัลยกรรม แพทย์ตรวจประเมินอาการพิจารณาให้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล วางแผนการรักษาด้วยการตัดเนื้อตายในห้องผ่าตัด และอาจพิจารณาตัดขาถ้าแผลไม่ได้ขึ้น และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการติดเชื้อรุนแรง การวินิจฉัย DM c DM foot infection ผลการรักษาผู้ป่วยได้รับการตัดเนื้อตายในห้องผ่าตัด จำนวน 3 ครั้ง จนแผลดีขึ้น แพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้าน และให้มาทำแผลทุกวันที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี ระยะเวลาการรักษาในโรงพยาบาลทั้งหมด 27 วัน
บทสรุป การพยาบาลผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผลเรื้อรังที่เท้าร่วมกับความดันโลหิตสูงจำเป็นต้องใช้แนวทางแบบองค์รวม โดยเน้นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต และการดูแลแผลอย่างถูกต้อง พยาบาล มีบทบาทในการประเมินอาการ เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน ให้ความรู้ในการดูแลตนเอง การใช้ยา และการปรับพฤติกรรมสุขภาพอย่างเหมาะสม การดูแลที่ต่อเนื่องและเป็นระบบจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ การสูญเสียอวัยวะ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Keywords : การพยาบาล, โรคเบาหวาน, แผลที่เท้า, โรคความดันโลหิตสูง