Abstract

บทนำ โรคกระดูกสันหลังตีบแคบ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยมักมีอาการปวดหลังเรื้อรังและ

ขาดความสามารถในการดูแลตนเอง ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การรักษาด้วยการผ่าตัดเปิดช่องกระดูกสันหลัง ร่วมกับการใส่สกรูยึดกระดูก เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการปวดและฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย กระบวนการพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับการระงับความรู้สึกแบบทั่วร่างกายในการเข้ารับการผ่าตัด จึงมีความสำคัญ                   เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน และสนับสนุนการฟื้นคืนสุขภาพของผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ 

      วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยาระงับความรู้สึกแบบทั่วร่างกายในการผ่าตัดเปิดช่องเชื่อมและใส่สกรูยึดกระดูกสันหลังส่วนเอวตั้งแต่แรกรับจนกระทั่งจำหน่าย          

        วิธีการศึกษา เป็นการศึกษาย้อนหลังจากเวชระเบียนของผู้ป่วยจำนวน 1 ราย ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังตีบแคบ และได้รับยาระงับความรู้สึกแบบทั่วร่างกายในการผ่าตัด และใช้กระบวนการพยาบาลเป็นกรอบแนวทางในการดูแล           

           ผลการศึกษา ผู้ป่วยชายไทย อายุ 60 ปี เข้ารับการผ่าตัดขยายช่องกระดูกไขสันหลังและใส่สกรูยึดกระดูกสันหลังส่วนเอว เนื่องจากมีอาการปวดหลังเรื้อรังที่ร้าวไปขาทั้งสองข้างและมีอาการชาขา ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งต้องการการดูแลพิเศษจากวิสัญญีพยาบาลในทุกขั้นตอนของการผ่าตัด โดยเฉพาะในระยะก่อน ขณะ และหลังการให้ยาระงับความรู้สึก การดูแลอย่างใกล้ชิดช่วยป้องกันและเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการระงับความรู้สึก ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้ดีหลังการผ่าตัดและได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพตลอดระยะเวลาการรักษาในโรงพยาบาล 23 วัน โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

           บทสรุป การพยาบาลผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังตีบแคบที่ได้รับการผ่าตัดเปิดช่องกระดูกและใส่สกรูยึดกระดูกสันหลังภายใต้การระงับความรู้สึกแบบทั่วไป เป็นการผ่าตัดที่มีความซับซ้อนจำเป็นต้องมีการดูแลอย่างครอบคลุม จากวิสัญญีพยาบาลตั้งแต่ระยะก่อน ระหว่าง และหลังให้ยาระงับความรู้สึก ต้องอาศัยการพยาบาลอย่างเป็นระบบ ด้วยการใช้ความรู้ ทักษะ และวิจารณญาณทางวิชาชีพอย่างรอบด้าน ส่งผลให้ผู้ป่วยปลอดภัยตลอดกระบวนการผ่าตัด สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น