Abstract

บทนำ  ผู้ป่วยมะเร็งท่อทางเดินน้ำดีที่ได้รับการส่องกล้องทางเดินน้ำดีและตับอ่อนร่วมกับการใส่ท่อระบายชนิดโลหะ ถือเป็นการรักษาที่มีความซับซ้อน พยาบาลมีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้ป่วยอย่างครอบคลุม โดยใช้ความรู้ ความชำนาญ และทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยตลอดกระบวนการรักษา          

          วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษากระบวนการพยาบาลผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อทางเดินน้ำดีที่ได้รับการส่องกล้องทางเดินน้ำดีและตับอ่อนที่ใส่ท่อระบายชนิดโลหะ ณ งานตรวจรักษาพิเศษ โรงพยาบาลสิงห์บุรี

           วิธีการศึกษา เป็นการศึกษาย้อนหลังจากเวชระเบียนของผู้ป่วยจำนวน 1 ราย ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งท่อทางเดินน้ำดี และได้รับการส่องกล้องร่วมกับใส่ท่อระบายชนิดโลหะ โดยใช้กระบวนการพยาบาลเป็นกรอบแนวทางในการดูแล           

           ผลการศึกษา ผู้ป่วยชายไทย อายุ 66 ปี มีอาการปวดท้องด้านขวาบน มีไข้สูง และหนาวสั่น โดยไม่มีภาวะตัวหรือตาเหลือง ผลตรวจ CT แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของท่อน้ำดีโดยไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งท่อทางเดินน้ำดีชนิด Perihilar (Bismuth-Corlette type IV) จึงส่งทำการส่องกล้อง ERCP พร้อมใส่ท่อระบายชนิดโลหะ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ผู้ป่วยได้รับการดูแลทางการพยาบาลทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการทำหัตถการ รวมระยะเวลานอนโรงพยาบาล 6 วัน

           บทสรุป ผู้ป่วยผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อทางเดินน้ำดีที่ได้รับการส่องกล้องทางเดินน้ำดีและตับอ่อนที่ใส่ท่อระบายชนิดโลหะ ได้รับความปลอดภัยตลอดกระบวนการรักษา ไม่พบภาวะแทรกซ้อนรุนแรง การดูแลที่มีประสิทธิภาพจากพยาบาลเฉพาะทางในห้องส่องกล้องมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งด้านความรู้ ความสามารถ และการให้การพยาบาลอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย และเกิดผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดี