บทคัดย่อ 

ความสำคัญของปัญหา: ฝีในตับพบค่อนข้างบ่อยในประเทศไทย เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อทำให้เกิดเป็นหนองในเนื้อตับ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ผู้ป่วยอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ปัจจุบันมีการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างกว้างขวาง เทคโนโลยีการตรวจรักษาที่ทันสมัย ทำให้วินิจฉัยได้เร็วขึ้น โดยเชื้อแบคทีเรียก่อโรคที่สำคัญคือ Burkholderia pseudo mallei (Melioidosis) เนื่องจากเป็นโรคติดเชื้อชุมชนที่รุนแรง  ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว การวินิจฉัย การรักษา และการพยาบาลที่รวดเร็ว จะช่วยลดอัตราตายของผู้ป่วยได้มาก

วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษากระบวนการพยาบาล และการดูแลผู้ป่วยฝีที่ตับร่วมกับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด  

รูปแบบการศึกษา:  เป็นการวิเคราะห์กรณีศึกษากับหลักวิชาการ และนำผลการศึกษาไปใช้ในการดูแลผู้ป่วย 

ผลการศึกษา: ผู้ป่วยชายอายุ 57 ปี มีฝีที่ตับและการติดเชื้อในกระแสเลือด รับไว้รักษา ณ หอผู้ป่วยใน ให้การพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือด และฝีที่ตับ ต้องได้รับยาปฏิชีวนะ และออกซิเจนnasal cannula 5 LPM เพื่อเพิ่มออกซิเจนในร่างกาย ผู้ป่วยตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะ ต้องสังเกตอาการข้างเคียงของยา และภาวะแทรกซ้อน ดูแลลดความกังวลของผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับโรค อาการ และแผนการรักษาของแพทย์ เมื่ออาการดีขึ้น เตรียมวางแผนระยะจำหน่ายโดยให้ความรู้ และการปฏิบัติตัวได้ถูกต้องหลังจำหน่ายตามหลัก D-METHOD รวมจำนวนวันนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 9 วัน และจากการติดตามผลการรักษาพบว่าไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน

สรุป: พยาบาลมีส่วนสำคัญมากในการดูแลผู้ป่วยตั้งแต่แรกรับจนกระทั่งวางแผนจำหน่าย เพราะแต่ละระยะสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ดังนั้นพยาบาลต้องมีความรู้และทักษะในการปฏิบัติการพยาบาลเกี่ยวกับฝีที่ตับ รวมถึงการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะ sepsis อย่างชำนาญ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติการพยาบาลที่สอดคล้องกับปัญหาของผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดผลลัพธ์ทางการพยาบาลที่ดี